ยินดีต้อนรับทุกท่าน
มีข้อสงสัย หรืออยากสอบถามเกี่ยวกับความเป็นมา หรือเกี่ยวกับพระเครื่อง หรือใด ๆ สามารถสอบถาม หรือติดต่อมาที่ 0885226199

หลวงปู่หมุน ฐิตสีโร วัดบ้านจาน

หลวงปู่หมุน ฐิตสีโร  วัดบ้านจาน

 


    ประวัติหลวงปู่หมุน ฐิตสีโร  วัดบ้านจาน
  ปาฏิหาริย์ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล
อายุ 109 ปี วัดบ้านจาน อ.กัณทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ

หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล สกุลเดิม ศรีสงคราม เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 5 ปีชวด พ.ศ. 2437 ณ บ้านจาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ บิดาชื่อดี มารดาชื่ออั๊ว บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 14 ปี ครอบครัวได้นำไปฝากกับพระอาจารย์สีดา เจ้าอาวาสวัดบ้านจานผู้เป็นพระที่เชี่ยวชาญด้านกัมมัฎฐานและมีวิชาอาคมที่ เก่งมาก กระทั่งปี พ.ศ. 2460 ทำการอุปสมบท โดยมีหลวงพ่อสีดา เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อเพ็ง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ฐิตสีโล" แปลว่าผู้มีศีลตั้งมั่น

 หลังจากบวชแล้วได้จำพรรษาที่วัดบ้านจาน ศึกษาเล่าเรียนอักษรไทย อักษรขอม ฝึกกัมมัฎฐานในหมวดสมถะและวิปัสสนากรรมฐานจากพระอุปัชฌาย์ ครูบาอาจารย์ต่างๆ ในแถบนั้นเป็นเวลา 4 ปีเต็ม จากนั้นท่านมีความคิดว่าจะต้องแสวงหาครูบาอาจารย์อื่นๆ เพื่อศึกษาคันถธุระและวิปัสสนาธุระในชั้นที่สูงๆ ขึ้นไปอีก จึงออกธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ และร่ำเรียนวิชาอาคมกับพระเถระชื่อดังหลายรูปเกือบทั่วประเทศจนถึงประเทศลาว มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย
         ตลอดชีวิตแห่งการครองเพศบรรพชิต อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ก็ได้อุทิศตน ปฏิบัติตนตามแนวทางแห่งคำสอนของพระศาสดาอันพึงจะกระทำ สมกับฉายานามอันได้รับเมื่อครั้งอุปสมทบคือ "ฐิตสีโล" แปลความว่า ผู้ตั้งมั่นในศีล 85 พรรษาแห่งการครองผ้ากาสาวพัตร ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยออกจาริกธุดงค์ ปฏิบัติบำเพ็ญเพียรทางจิตเพื่อวิมุติ คือ ความหลุดพ้นตลอดจนออกโปรดญาติโยมไปยังทิศานุทิศ ทั่วทุกภาคของประเทศตลอดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว เขมร พม่า มาเลเซีย อินโดนีเซีย ในช่วงปัจฉิมวัย ตราบจนล่วงเข้าอายุ 80 ปี จึงได้หยุดจารึก กลับสู่มาตุภูมิ คือแดนแห่งบ้านเกิด คือวัดบ้านจานในปัจจุบัน และเป็นหลักชัยให้แก่ชาวบ้าน ต.บ้านจาน อันเปรียบเสมือน ลูก หลาน เหลน ของท่าน ไม่อาจจะพยากรณ์ได้ว่าพระเดชคุณ  “ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล” จะเป็นพระอริยะสงฆ์ผู้สามารถประหารกิเลส บรรลุสู่คุณธรรมชั้นสูงหรือไม่ แต่ ศิษยานุศิษย์ก็กราบไหว้และเคารพนับถือท่านด้วยความสนิทใจในปฏิปทาอาจาริ ยวัตรที่ท่านประพฤติ ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ
เมื่อเวลา 07:30 น. วันที่ 11 มี.ค. 2546 วงการสงฆ์และฆราวาส จ.ศรีสะเกษ ต้องพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ โดย หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านจาน ต.จาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ มรณภาพอย่างสงบด้วยโรคชรา รวมอายุ 109 ปี 87 พรรษา
                                                                 ไม่เปียกฝน
เจ้าของโรงเลื่อยย่านวัฒนานครได้ประสบการณ์แปลกประหลาดเกี่ยวกับหลวงปู่คือ เมื่อช่วงกรกฏาคม 2542 เขาได้เข้าไปทำธุระยังประเทศลาว ขากลับได้อาศัยรถกระบะนั่งกลับในช่วงกลางคืน ระหว่างทางมีฝนตกฟ้าคะนองรุนแรง เขาได้นั่งอยู่ท้ายรถกระบะที่ไม่มีหลังคาคลุม ซึ่งนั่งรวมกับคนงานไทยประมาน 7-8 คน มีความกลัวมากจึงตั้งจิตอธิษฐานถึงหลวงปู่หมุนให้มาช่วยคุ้มครอง พอถึงที่หมายแถวกบินทร์บุรี ผลปรากฏว่าเจ้าของโรงเลื่อยผู้นั้นไม่เปียกฝนเลย ส่วนคนงานอื่นๆ ที่นั่งท้ายรถมาด้วยกันเปียกฝนทุกคน พอมีเวลาจึงเข้าไปกราบหลวงปู่ขอสร้างกุฏิถวาย เพราะช่วงนั้นท่านเพียงกลางกลดนอนในกระต๊อบเก่าๆ เท่านั้น
                                                                   กล้องแตก
         เมือประมานเดือนสิงหาคม 2542 มีชาวอเมริกันกลุ่มหนึ่งมาเที่ยวที่วัด เพราะเห็นมีธรรมชาติสมบูรณ์ ผ่านมาเห็นหลวงปู่หมุน จึงถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก หลวงปู่ยกมือห้ามไม่ให้ถ่ายแล้วพูดว่า “ถ่ายบ่ได้กล้องซิแตก” ฝรั่งเหล่านั้นฟังไม่เข้าใจ จึงกดชัตเตอร์ถ่ายภาพออกไป ผลปรากฏว่ากล้องราคาแพงนั้นเกิดเลนส์ร้าวขึ้นมาทันที ทำให้ฝรั่งกลุ่มนั้นเกิดแปลกประหลาดใจ และเกิดความเลื่อมใสจึงเข้ามากราบหลวงปู่และถวายเงินสดประมานสามหมืนกว่าบาท ท่านรับเงินนั้นแล้วก็โยนเงินปึกนั้นคืนให้แล้วบอกว่า “ข้าบ่ได้มาหากิน เอาเงินของเอ็งคืนไป”
                                                          ผีมาฉีดยากุฏิสั่นสะเทือน
         เมื่อกลางพรรษานี้หลวงปู่ได้ปลุกเสกลูกอมชานหมาก และมวลสารต่างๆ เพื่อจะนำมาสร้างพระรุ่นแรกของท่าน ในกลางดึกสงัดปรากฏว่ามีเสียงสุนัขเห่าหอนกันอย่างโหยหวนอย่างที่ไม่เคยเป็น มาก่อน พอรุ่งเช้าพระอธิการจ่อยได้เข้ากราบนมัสการถามเรื่องนี้ หลวงปู่ตอบแบบเป็นปริศนาธรรมว่า“นายผีเขามา พาพวกผีป่าต่างๆ มาฉีดยา” นายผีที่ว่านี้อาจจะเป็นเจ้าแห่งภูติผีคือท่านท้าวเวสสุวรรณก็เป็น ไปได้ ส่วนพวกผีป่าที่มาฉีดยานั้น ก็พากันมาขอส่วนบุญส่วนกุศล พอดึกสงัดคืนที่ 2 ปรากฏว่ามีเสียงกุฏิท่านสั่นสะเทือนเหมือนเกิดแผ่นดินไหว พอรุ่งเช้าท่านบอกว่า “ครูบาอาจารย์มาช่วยกันปลุกเสกให้จนกุฏิสั่น” หลวงปู่จึงยกมือไหว้ครูบอกว่า “ขลังพอแล้ว เดี่ยวกุฏิจะพัง”
                                                                  หนึ่งไม่มีสอง
         คุณดารารัตน์ เจ้าของร้านสาวสวย ขายผลิตภัณฑ์พลาสติก ย่านสำเพ็ง ซึ่งเป็นคนที่ปฏิบัติธรรมจนได้มโนมยิทธิ จากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้กรุณาเล่าให้ฟังว่าหลังจากที่น้องชายได้เหรียญและลูกอมชานหมากมาก็ได้ อธิษฐานขอชมบารมี ปรากฏว่าวัตถุมงคลนั้นมีพลังมากเกินกว่าที่สัมผัสได้ เสมือนตัวเองยืนอยู่บนพื้นดินแล้วแหงนหน้าดูดวงอาทิตย์ฉันนั้น พอตกกลางคืนก็ฝันเห็นพระสูงอายุมายืนบนหัวนอนแล้วยืนชูนิ้วชี้ขึ้นมาพูดว่า “หนึ่งไม่มีสอง”
                                                    หลวงตามหาบัว บอกให้ไปหา
         ช่วงที่พระอาจารย์ตั้ว ศิษย์เอกหลวงพ่อกวยตระเวนหาพระอาจารย์ที่เก่งๆ ได้เข้าไปกราบหลวงตามหาบัว และขอของดีจากท่าน ปรากฏว่าท่านบอกว่าไม่มี ถ้าชอบในวัตถุมงคลอิทธิปาฏิหาริย์ให้ไปหาหลวงตาหมุนโน่น ซึ่งกว่าพระอาจารย์ตั้วจะค้นหาหลวงปู่หมุนได้เป็นเวลาถึง 15 ปี กว่าจะได้เจอ โดยคำบอกเล่าของพระอาจารย์มงคล วัดสุทัศน์ จึงได้เดินทางไปกราบนมัสการด้วยกัน
                                                  คุ้นเคยกับพระคณาจารย์ยุคเก่า
 ในช่วงหนึ่งพระคุณเจ้าทั้งสองได้เรียนถามหลวงปู่ว่า “รู้จักหลวงพ่อกวยไหม” ท่านตอบว่ารู้จักซิ องค์นี้เก่ง เคยพบกันในป่า ซึ่งคำตอบนี้ยังความปลื้มปีติแก่พระอาจารย์ตั้วเป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านั้นหลวงพ่อกวยสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ได้บอกกับพระอาจารย์ตั้วว่า “มีพระที่เก่งมากอยู่รูปหนึ่งอยู่ในป่าแถบขอนแก่น ท่านสำเร็จแล้ว ต้องไปหาท่านให้พบ ชื่อหลวงพ่อหมุน” ซึ่งเป็นคำบอกเล่าของหลวงพ่อกวยโดยตรง
                                                       พิชิตโรค
คุณสิทธิชัย  หุ้นส่วนร้านแสงรุ่งเรืองพลาสติก ได้ไปกราบขอของดีจากหลวงปู่พร้อมคณะของท่านพระอาจารย์มงคล พอกลับมาตอนกลางคืน ลูกสาววัย ขวบได้เกิดอาการร้องไห้ดิ้น ทุรนทุราย ประกอบกับเป็นเวลาดึกมากแล้วจะไปหาหมอก็ไม่ทันจึงอธิษฐานจิตต่อหน้ารูปถ่ายหลวงปู่ ขอพึ่งบารมีทำน้ำมนต์ใส่แก้วให้ลูกสาวกิน  ปรากฏว่าลูกสาวซึ่งมีอาการเกร็งดิ้นไปดิ้นมานั้น หายเป็นปลิดทิ้งและกิจการที่เคยซบเซาก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ซึ่งผิดกว่าแต่ก่อน ทั้งนี้เพราะเขาเป็นคนปฏิบัติธรรมและขอบารมีหลวงปู่เป็นที่พึ่งเสมอมา
ตายไปแล้วตัวเป็นหิน

เรื่องนี้ทางพระอาจารย์ทูน  พระลูกวัดของพระอาจารย์ตั้ว (ศิษย์หลวงพ่อกวยได้เล่าให้ฟังว่าคืนหนึ่งหลังจากสวดมนต์นั่งสมาธิแล้ว ก็ฝันไปว่ามีพระสูงอายุรูปหนึ่งเดินเข้ามาบอกว่า ข้าชื่อปู่หมุน ตัวตายไปแล้ว แต่ร่างกายเป็นหิน ต้องไปกราบขอขมา  เพราะชาติที่แล้วเอ็งโดนคำสาบ” ตอนเช้าตื่นขึ้นมาเล่าให้พระอาจารย์ตั้วฟัง  ยังความประหลาดใจเป็นอย่างมาก  เพราะตัวของพระอาจารย์ทูนเองไม่เคยเห็นหรือรู้จักหลวงปู่หมุนมาก่อน
ช่างกลึงกระดูกเหล็ก
คุณเกรียงไกร เป็นช่างกลึงโลหะอยู่โรงงานแห่งหนึ่งย่านบางรัก กทมมีความศรัทธาต่อหลวงปู่หมุนมาก คุณเกรียงไกรพกพา
ตระกรุดนเรศวรปราบหงษาของหลวงปู่หมุนไว้ตลอดเวลา พร้อมกับรูปหล่อหลวงปู่หมุน เนื้อนวะโลหะ รุ่นเสาร์ 5อยู่เพียง อย่างเท่านั้น วันหนึ่งขณะทำงานกลึงโลหะอยู่ในโรงงาน เหล็กเพลาขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่บนโซ่เตรียมรอที่จะเข้าแท่นไฮโดรลิก ได้หล่นลงมาทับคุณเกรียงไกร ตรงกับกลางหลังพอดิบพอดี พอได้สติก็ร้องให้คนงานมาช่วยยกเอาออก เถ้าแก่ได้นำส่งโรงพยาบาลทันที แพทย์และพยาบาลได้ทำการปฐมพยาบาลและเอ็กซเรย์แล้วมาบอกว่า ห้อยพระอะไรทำไมถึงไม่เป็นอะไรเลย ไม่มีรอยกระดูกแตกกระดูกหักแม้แต่เพียงเล็กน้อย มีแต่รอยฟกช้ำเท่านั้น คุณเกรียงไกรบอกว่าขณะที่โดนเหล็กทับนั้นคิดว่าชาตินี้คงพิการไปตลอดชีวิต จนนึกได้ว่าตัวเองมีหลวงปู่หมุนเป็นที่พึ่งที่ระลึกจึงขอบารมีหลวงปู่หมุนให้ช่วยคุ้มครองตลอดเวลา

เข้าฝันถึงที่บ้าน





คุณกำพล  พานทอง  561 .ไกรเพชร อ.เมือง จ.ราชบุรี เล่าว่าคืนหนึ่งได้ฝันว่ามีพระภิกษุสูงอายุรูปหนึ่งพูดว่า “ ข้าชื่อหมุน ฐิตสีโล อยู่วัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ เห็นว่าเจ้ากำลังเดือดร้อน และพร่ำบ่นต่อเทพยดาฟ้าดินว่าทอดทิ้งไม่ใยดี เจ้าไปบูชาวัตถุมงคลของข้ามาไว้ก็จะพ้นจากทุกข์นั้นได้…”  คุณกำพลเจ้าของความฝัน จึงได้รีบค้นคว้าหาหนังสือพระเครื่องต่างๆ มาอ่านพบข้อความประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับวัตถุมงคลของหลวงปู่หมุนจาก นิตยสารพระเครื่องนะโม จึงตรงดิ่งไปบูชาที่วัดสุทัศน์ และเล่าเรื่องให้ใครต่อใครฟังว่าเกิดมาก็เพิ่งเคยพบครั้งนี้แหละ ถ้าคนอื่นมาพูดก็ไม่มีวันจะเชื่อ แต่ตัวเองพบมาด้วยตัวเองแล้วอัศจรรย์ใจมาก โดยเฉพาะแหวนปลอกมีดนิ้วเพชร คุณกำพลยืนยันว่าเรื่องปาฏิหาริย์ด้านมหาอำนาจและนะจังงัง ซึ่งเจอมาด้วยตัวเองขณะไปทวงหนี้สินจากลูกหนี้หัวแข็ง ที่ทำท่าว่าจะสูญให้กลับได้เงินในที่สุด

                                                       มีโชค

คุณกำพล  พานทอง มีประสบการโชคลาภที่เพิ่งเกิดขึ้นกับวัตถุมลคลของหลวงปู่หมุนคือ คุณกำพลได้ส่งธนาณัติมาร่วมทำบุญบูชาพระกริ่งจักรพรรดิเกศทองคำไป องค์ ได้รับพระในวันที่ 18 .โดยหมายเลขใต้ฐานพระกริ่งตอกโค้ด ไว้ว่า “ 61” เขาจึงนำไปซื้อสลากออมสินงวดวันที่ 20 .ปรากฏว่าถูกได้เงินมาร่วม หมื่นบาท เขาบอกว่ามีวัตถุมงคลของหลวงปู่หมุนที่จัดสร้างอย่างเป็นทางการทุกรุ่น ตั้งแต่รุ่นเจริญลาภ  รุ่นเสาร์5  รุ่นไหว้ครู44  รุ่นไตรมาสรวยทันใจ  รุ่นไหว้ครู45  รุ่นแม่ทัพ  จนมาถึงรุ่นจักรพรรดินี้ เขามีวัตถุมงคลครบทุกอย่างของหลวงปู่หมุน  เพราะมีประสบการณ์สูงมาก  และเขาก็มีความศรัทธาต่อท่านมาก
ตะกรุดนเรศวรปราบหงษา

บริเวณโกเด้นท์ไมค์  ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นย่านที่คนไทยอยู่กันเป็นจำนวนมาก ช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์จะมีคนงานไทยไปรวมตัวเพื่อพบปะสังสรรค์กันมากที่สุดแห่งหนึ่ง บางพวกก็นั่งส่องพระเครื่องกัน บางพวกก็นั่งดื่มสุรากัน ซึ่งพวกที่ดื่มสุรานั้นดื่มไปดื่มมาก็มีเรื่องขัดคอกัน จนมีการทะเลาวิวาทกัน มีคนงานคนหนึ่งเกิดอารมย์ฉุนเฉียวด้วยฤทธิ์สุรา หยิบเอามีดพกขนาดใหญ่มาเสียบเข้าที่หน้าท้องของคู่อริอย่างจังถึงขนาดหงายท้องผึ่งลงไป เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาทำการเคลียพื้นที่พบชายที่ถูกมีดแทงล้มลงนอนกับพื้น เจ้าหน้าที่ได้พลิกตัวผู้บาดเจ็บเพื่อดูบาดแพลก็ต้องตกใจเพราะผู้บาดเจ็บไม่เป็นอะไร มีแต่เพียงรอยเสื้อขาดเท่านั้น ผู้บาดเจ็บนั้นมีแต่เพียงตะกรุดนเรศวรปราบหงษาอยู่เพียงดอกเดียวเท่านั้น

ไหนๆก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับตะกรุดมหาระงับแล้ว ก็ขอเล่าอีกสักเรื่องนะครับ....
มีอยู่วันหนึ่งมีโทรศัพท์เข้ามาที่สำนักงาน วัตถุมงคลที่วัดสุทัศน์ โทรมาจากอเมริกาว่า..ได้เคยอ่านหนังสือพระ มีประวัติหลวงปุ่หมุนลง และมีประสบการณ์ปาฏิหาริย์ต่างๆ จึงเกิดความศรัทธาอยากจะขอบูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่หมุน เพราะว่าช่วงนี้กำลังประสบปัญหาเรื่องธุรกิจ และกำลังเป็นคดีความอยู่ในชั้นศาล ทางวัดก็ถามถึงเรื่องราวต่างๆ เขาก็เล่าว่าเขาไปทำธุรกิจที่อเมริกาหลายปีแล้ว ตอนนี้เป็นคดีความอยู่ในชั้นศาล อาจจะโดนฟ้องล้มละลาย..ฯลฯ เขาได้เล่าเรื่องให้เจ้าหน้าที่ฟังอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ขณะนี้จิตใจกำลังเป็นทุกข์มาก ไม่มีที่พึ่ง จึงอยากจะหาที่พึ่งทางใจ ให้ช่วยคลายความทุกข์ลงไปบ้างไม่มากก็น้อย เจ้าหน้าที่ฟังเรื่องราวของเขาแล้วก็เกิดความสงสาร เลยแนะนำให้บูชาตะกรุดมหา

ระงับ โดยจะจัดส่งของไปให้ใช้ก่อน พร้อมกับวิธีใช้ ส่วนปัจจัยเมื่อไรจะส่งมาให้ก็ได้ ก็ได้จัดส่งไปให้โดยด่วนจะได้มีเวลาสวดบูชา ส่วนวิธีใช้ตะกรุดมหาระงับ(คดีความ) ก็ไม่ต้องมีอะไรซับซ้อนมากมาย ก็ตั้งจิตระลึกถึงคุณพระรัตนไตร คุณครูบาอาจารย์ มีหลวงปู่หมุนเป็นที่สุด สวดบูชาตามคาถาที่แนบมา อธิษฐานเอาตะกรุดแช่น้ำทำน้ำมนต์อาบ-กิน ตั้งจิตตามความปราถนา....
ประมาณหนึ่งอาทิตย์ต่อมา เขาก็โทรศัพท์เข้ามาที่วัดอีก แต่วันนี้เขาโทรมาเล่าว่า..
ตั้งแต่เอาตะกรุดมหาระงับของหลวงปู่หมุนมาบูชา และก็ทำตามที่บอกเอาไว้ทุกอย่าง และจุดธูปขอให้หลวงปู่หมุนช่วยให้รอดพ้นจากอุปสรรค ทำอยู่ประมาณ วันปรากฏว่าเรื่องคดีความต่างๆที่ว่าจะโดนฟ้องล้มละลายดังกล่าว ขณะนี้ศาลได้ยกฟ้องแล้ว สรุปคดีก็จบ..และยังได้ฝันเห็นหลวงปู่หมุนอีกด้วย ว่า....
หลวงปู่หมุนท่านมาเข้าฝันบอกว่า....ให้เอ็งไปที่ วัดบ้านจานไปเอาไม้เท้าของข้าเป็นไม้เท้าสีขาว ข้าขอมอบให้เอ็งเอาไว้บูชาค้ำจุลชีวิตให้มีความเจริญสูงยิ่งๆขึ้นไป....ก็เลยโทรศัพท์มาเล่าให้ฟังและขอปรึกษาเรื่องที่หลวงปู่หมุนมาเข้าฝันบอกให้ไปเอาไม้เท้า ว่าจะไปที่วัดอย่างไร และจะเอาไม้เท้าของหลวงปู่ได้หรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ดูแลวัตถุมงคลก็อธิบายการจะเดินทางไปวัดบ้านจานให้ฟัง แต่สำหรับเรื่องไม้เท้าของหลวงปู่จะได้หรือไม่ได้ก็แล้วแต่ทางวัดจะพิจจารณา....

พอถึงวันที่ชายคนเจ้าของเรื่องได้เดินทางไปถึงวัดบ้านจาน และเล่าเรื่องต่างๆให้กับทางท่านเจ้าอาวาสวัดบ้านจานฟัง ท่านก็เลยเห็นว่าถ้าเป็นความประสงค์ขององค์หลวงปู่จริงๆ ก็เดี๋ยวจะเข้าไปดูไม้เท้าของหลวงปู่ว่ามีไม้เท้าสีขาวนั้นจริงหรือไม่(ไม้เท้าหลวงปู่มีหลายอันมาก)...พอเข้าไปในห้องที่เก็บบริขารของหลวงปู่ก็พบไม้เท้าของหลวงปู่ที่เป็นสีขาว อยู่หนึ่งอันจริงๆ ทางท่านเจ้าอาวาสก็เมตตามอบไม้เท้ากายสิทธิ์ของหลวงปู่หมุนให้เขาไปบูชาและสั่งกำชับว่า ไม้เท้าของหลวงปู่เป็นของสูงค่ายิ่งให้เก็บเอาไว้บูชาและขอให้รักษาไว้เท่าชีวิต....และจงตั้งตนอยู่ในความดี ฯลฯ
(เรื่องนี้ฟังมาจากศิษย์หลวงปู่หมุน ที่อยู่วัดสุทัศน์เล่าให้ฟังครับ)

ประสบการณ์แหวนปลอกมีด(นิ้วเพชร พระอิศวร) หลวงปู่หมุน(รุ่น 2)..
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ศูนย์พระแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯละครับ เรื่องมีอยู่ว่า....
ตอนที่วัตถุมงคลรุ่นเสาร์ ๕ บูชาครูเพิ่งออกมาให้ทำบุญบูชา มีคนกลุ่มหนึ่งได้เข้ามาที่ศูนย์พระแห่งนี้และได้บูชาพระของหลวงปู่หมุนไปกัน แต่มีอยู่คนหนึ่ง(ผมไม่ทราบชื่อนะครับ..)เขาได้บูชาแหวนปลอกมีดรุ่นของหลวงปู่หมุนไป แล้วก็นั่งคุยกันถึงอานุภาพของแหวนปลอกมีดรุ่นแรกที่ออกมาให้บูชา

พร้อมพระกริ่งรุ่นเริญลาภ..ว่ามีประสบการณ์สูง ฯลฯ จึงมีผู้คนเรียกร้องให้ทางวัดจัดสร้างขึ้นมาอีก..แต่ขณะที่นั่งคุยกันอยู่นั้นมีชายผู้หนึ่ง คนที่บูชาแหวนรุ่นนี้ไป ก็ได้หยิบแหวนขึ้นมาอาราธนา และท่องคาถาขอลาภตามใบคาถาที่จัดไปให้ พร้อมกับชี้นิ้วที่ใส่แหวนไปที่ตัวเองแล้วก็พูดขึ้นว่า....รวย รวย รวย..สักไม่กี่อึดใจชายคนนี้ก็มีอาการ หน้าแดงก่ำ แล้ววิ่งไปข้างนอก แล้วอาเจียนออกมามากมาย พร้อมกับด้วยกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรง ทางเพื่อนของเขาที่มาด้วยกันตกใจก็ช่วยกันออกไปดูอาการ แต่มีคนที่มาด้วยกันคนหนึ่งบอกกับทางศูนย์พระว่า คนๆนี้(คนที่อาเจียน) เป็นคนชอบนั่งสมาธิ และก็ชอบสะสมของด้านไสยศาสตร์โดยเฉพาะ ชอบเลี้ยงพราย เลี้ยงผี กุมารทอง ฯลฯ มาก บางครั้งก็มีอาการเหม่อลอย หรือของขึ้น เคยไปหาอาจารย์หลายท่านดูก็ไม่ดีขึ้น แต่ครั้งนี้เห็นอาเจียนออกมามีกลิ่นเหม็นเน่า คาดว่าของในตัวเช่นน้ำมันผีฯลฯ คงจะออกมานั่นเอง ด้วยอานุภาพของแหวนปลอกมีดนิ้วเพชรพระอิศวร สามารถขับและทำลายสิ่งที่ชั่วร้ายทั้งหลายทั้งปวงได้นั่นเอง..

อีกเรื่องหนึ่งในพิธีพุทธาภิเศกวัตถุมงคลของหลวงปู่อิง โชติโญ วัดโคกทม จ.บุรีรัมย์ พอพิธีพุทธาภิเศกเสร็จสิ้นลง ก็มีพวกทหารมาช่วยกันเก็บเคลียร์สถานที่ต่างๆพอแล้วเสร็จ มีทหารคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพระอาจารย์องค์หนึ่งที่เป็นศิษย์ของหลวงปู่หมุนและเป็นแม่งานจัดพิธีนี้..ว่า....หลวงพี่มีของอะไรดีๆ ขอให้ผมไว้ใช้บ้างสิครับ..หลวงพี่รูปนั้นก็เลยให้แหวนปลอกมีดของหลวงปู่หมุน รุ่นให้กับทหารคนนั้น แล้วบอกว่าเป็นของหลวงปู่หมุนอาจารย์ของหลวงพี่เอง ท่านเก่งมาก และเล่าประสบการณ์ให้ฟังนิดหน่อย..ทหารคนนั้นก็รับไปโดยที่ไม่ได้ว่าอะไร หายไปสักพักใหญ่ๆก็กลับมาหาอย่างหน้าตาตื่น แล้วก็เล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟังว่า....
ตอนที่หลวงพี่ให้แหวนวงนี้แก่ผม ผมก็ยังไม่ค่อยเชื่อว่าขลังจริง ผมเลยเอาไปลองยิง โดยตั้งใจว่าจะขอลองยิง นัดก็ขออนุญาต และก็ท้าทายว่า ถ้าหากของหลวงปู่องค์นี้ขลังจริงขอให้มีปาฏิหาริย์ให้เห็นด้วย ก็ทดสอบยิงกันในป่า โดยเอาแหวนแขวนไว้กับกิ่งไม้ จากนั้นก็ลั่นไก ห่างจากแหวนประมาณหนึ่งวา....ผลปรากฏว่า แชะ..แชะ ยิงไม่ออกเลยถึง นัดก็เห็นแปลกใจแต่ก็ยังไม่หายสงสัย เลยขี่มอเตอร์ไซด์กลับไปบ้านไปเอาเลือดประจำเดือนของภรรยา มาทาที่กระสุนปืน แล้วก็ทดลองยิงอีกหนึ่งนัด ปรากฏว่า..แชะ อีกเป็นนัดที่ ทหารผู้นี้ก็เลยไม่กล้ายิงอีก(เพราะกลัวปืนแตก) เพราะขอไว้แค่ นัดขนาดเอาประจำเดือนมาทากระสุนแล้วยังยิงไม่ออกอีกนี่ ไม่ต้องพูดว่าอะไรกันแล้วละครับ....
(เรื่อนี้งฟังมาจากคณะศิษย์หลวงปู่หมุนครับ..)
หลวงปู่หมุนท่านมีพรสวรรค์ในการเสกของมากครับ เพราะท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญและแตกฉาน ในองค์แห่งฌานสมาบัติและธาตุ(กสิณ..) ของที่หลวงปู่หมุนท่านอธิษฐานจิตให้ จึงเป็นของกายสิทธิครับ ทรงพลังอย่างพิศดาร มีอานุภาพสูงมากๆ เห็นผลไวและไม่มีวันเสื่อมครับ เพราะท่านเสกด้วยใจที่บริสุทธิ จากการอธิษฐานบารมีที่สั่งสม อบรมณ์มาเป็นอย่างดี ประกอบด้วยความเป็นพระอริยะภูมิ(ชั้นสูง) ความเมตตา ความหวัง เพื่อต้องการสงเคราะเหล่าพุทธบริษัทให้ได้พ้นจากกองทุกข์โดยเฉพาะครับ
(ผมไม่ได้เล่าเกินความเป็นจริงนะครับ หากแต่เป็นเรื่องที่เป็นได้ในระดับพระอริยะเจ้าจริงๆ)

เหรียญนารายณ์ทรงครุฑนี้ก็ประสบการณ์เพียบนะครับ

มีการปลุกเสกที่วัดซับลำใย จ.ลพบุรี ได้มีทหารป่าหวายลองเอาปืน เอ็ม.16 ยิงเหรียญนี้ครับ ไม่มีออกครับ ยิงถึง ครั้ง พอครั้งที่ ปืนออกครับ แต่เหรียญหายไป ปรากฏว่าเหรียญดังกล่าวกลับไปอยู่ที่หลวงปู่หมุนครับ ท่านบอกว่าเรียกคืนเพราะมันไม่นับถือ
มีอาจารย์ที่นั่งสมาธิเก่งเป็นที่เคารพของพรรคพวกที่ จ.ชลบุรี ได้ตรวจดูพลังเหรียญนารายณ์ทรงครุฑของหลวงปู่หมุนเหรียญนี้ บอกว่าพลังพอ ๆ กับพระรอด วัดมหาวันทีเดียวครับ

ใครที่บูชารูปหล่อเบ้าทุบ หรือ รูปหล่อบูชาของลป.หมุน ผมขอแนะนำถึงคาถาบูชา และวิธีบูชา ดังนี้ครับในการบูชาครั้งแรกให้จัดหาหมากพลู พร้อมทั้งพวงมาลัยมะลิสดมาบูชา เพื่อขอความสวัสดิมงคล มีความสมบูรณ์พูลสุขคุ้มครองลูกหลานให้ประสบแต่สิ่งที่ดีงาม มีโชคมีลาภ เป็นมหานิยม ขจัดปัดเป่าอุปสรรคต่าง ๆ ต่อไป ก่อนจุดธูปบูชาหลวงปู่หมุน ให้นำธูป ดอก มากำไว้ในมือเพื่อเสกธูป ด้วยมนต์จินดามณีเรียกทรัยพ์  

 มะอะอุ สิวังพรหมา จิตตัง มานิมา จิตตังวา ปุบผังวา เทวี วา ราชาวา เศรษฐีวา สะมะโณวา พรหมาโณวา อิตถีวา ปุริโสวา พานิชโชวา พานิชชาวา เอหิ เอหิ ปูชิตา อะหังวันทามิ สัพพะทาฯ ว่า จบ    และอธิฐานตามความปรารถนา จากนั้งพึงสวดมนต์ด้วยบทจินดามณีมนต์เพื่อเรียกโชคลาภ การค้าขายดี เจริญรุ่งเรือง มีเมตตามหานิยมในตัวเองด้วยบทคาถานี้ พระคาถาจินดามณีเรียกหัวใจคน

อิติปิโส ภควา ฯลฯ พุทโธ ภควาติ พุทธัง ปูเชมิฯ
สวากขาโต ฯลฯ วิญญูหีติ สังฆังปูเชมิ ฯ

พุทโธ นะเมตตา โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู นะโมพุทธายะ มะอะอุ เมตตา จะมหาราชะปุตตี ราชะปุตตา สมณา สมณี พราหมณี พราหมณา ทาสี ทาสา สัพพะสิเนหา จะปูชิโต สัพพะสุขัง จะมหาลาภัง ภวันตุเม สัพพะโกรธัง วินาสสันติฯ ต่อไปก็ขึ้นด้วย ธัมโม นะเมตตา ...... และสุดท้ายก็ สังโฆ นะเมตตา........

พระคาถาขอนิมิตโชคลาภจากหลวงปู่
นะมะพะทะ อิติอะระหัง อุทะปาทิยานัง พุทธะนิมิตตัง อุปปันนัง โหติฯ
พระคาถานี้ใช้ภาวนาให้เห็นเป็นตัวเลข หรือนิมิตมาบังเกิดให้ปรากฏในจักขุทวาร มโนทวาร ถ้าหากไม่มาปรากฏให้เห็นก็จะฝันเห็น หรือจะอธิฐานภาวนาขอนิมิตก็ได้ตามความปรารถนา
สัพพะสุขัง จะมหาลาภัง ภวันตุเม สัพพะโกรธัง วินาสสันติฯ
สังโฆ นะเมตตา โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู นะโมพุทธายะ มะอะอุ เมตตา จะมหาราชะปุตตี ราชะปุตตา สมณา
จากนั้นก่อนนอนให้ระลึกถึงลป.หมุนและบูรพาจารย์ของท่าน แล้วภาวนาไปจนกว่าจะหลับ ดังนี้




พุทโธ พระอะระหัง พุทธะนิมิตตัง อิติฯ
พระคาถานี้ ภาวนาก่อนเข้านอน ถึงแม้จะมีเหตุโภยภัยอันตราย ก็บันดาลให้รู้สึกทั้งเกิดสวัสดิมงคล ทั้งเทพเจ้าคุ้มครองรักษา และเกิดลาภสักการะมาก ด้วยต้องการประสงค์สิ่งใดให้ภาวนาพระคาถาดังนี้ เพื่อขอนิมิตฝัน จะมาปรากฏให้เห็น ด้วยเดชบุญฤทธิ์ของลป.หมุน


กริ่งพระแก้วมรกต


ผมไม่เคยรู้จักหลวงปู่หมุนมาก่อน มีคนแนะนำจึ่งลองหาดู ก็ได้มาครั้งแรกเป็นเหรียญหมุนเงินหมุนทองหนึ่งเหรึยญ กับ กริ่งพระแก้วมรกต แต่วันแรกที่ผมได้มา มีพายุพัดต้นไม้รุนแรงมากจนจะหักโค่นไปบ้านอีกหลัง ผมปลูกต้นไม้ใหญ่ ผมนึกว่าแย่ แล้วเรา ทำไงดี ผมนึกขึ้นได้ ว่าผมพอจะพึ่งได้ ก็คือลองขอ กริ่งพระแก้ว ดู ผมยกมือขึ้นอธิฐานว่าหลวงปู่ ช่วยอย่าให้ลมพัดต้นไม้ ให้เกิดหักโค่นไปโดนรถเพื่อนบ้านที่จอดไว้ ด้วยเถอะ ไม่ถึง วินาที ลม แรงมาก หยุดแบบมหัศจรรย์ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมยกมือท่วมหัว สาธุ สาธุ หลวงปู่ มีจริง ๆๆๆๆ ปัจจุบันผมเป็นศานุสิทธ ที่แขวนหลวงปู่หมุนเกือบทุกรุ่น ที่ผมพอจะหาได้ด้วยกำลังทรัพย์ผม ผมชอบมากก็กริ่งพระแก้วรู้ถึงพุทธคุณสุดยอด พูดได้คำเดียว




เหรียญมหาพรหม๔หน้ารุ่นมหาจักรพรรดิ์
หลวงปู่หมุนอธิฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวตลอดไตรมาสปี๒๕๔๕


พิธีจักรพรรตราธิราช วัดบ้านจาน ศรีษะเกษ วันที่๕ ธ.ค ๔๕
เหรียญนี้ประสบการณ์มากมายทหารสามจังหวัดชายแดนภาคพกติดตัวกันมากที่สุดปลอดภัยแคล้วคลาดกันทุกคน

เหรียญรุ่นนี้เจ้าพิธีสร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่กาหลงเขี้ยวแก้วนำเหรียญมหาพรหมจำนวนหนึ่งไปใส่เบ้าหลอมเพื่อเป็นชนวนเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์พอได้ใส่ไปในเบ้าเกิดสิ่งมหัศจรรย์เป็นอย่างมากเพราะเหรียญมหาพรหมทั้งหมดไม่ยอมหลอมละลายทั้งๆที่อุณหภูมิความร้อนสูงมากๆไม่ว่าจะใส่ชนวนอะไรก็ละลายเป็นจุลหมดแต่เหรียญมหาพรหมไม่ยอมละลายทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่ตรงนั้นตกใจมากสักพักดูท่าทีแล้วเหรียญไม่มีทีท่าว่าจะหลอมละลายได้เจ้าพิธีจึงสั่งให้ตักเหรียญทั้งหมดขึ้นมาแล้วก็ทำการขอขมาหลวงปู่หมุนตรงนั้นทันทีครับนี่แหละคือสุดยอดหนึ่งในปฐพีของจริงครับ

ประสบการท้าวเวสสุวรรณ หลวงปู่หมุน
เรื่องนี้ได้อ่านมาจากหนังสือ เรื่องผีๆ เป็นเรื่องประสบการณ์จริง ของผู้ที่เจอะเจอมา เขียนมาบอกเล่า..
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคุณ....(ผมจำไม่ได้) เป็นนักธุรกิจเกี่ยวกับที่ดินคนนึง ซึ่งมีฐานะและหน้าตาทางสังคมพอสมควร เขาได้ซื้อที่ดินเอาไว้ปลูกบ้านอยู่แปลงหนึ่ง และได้ย้ายครอบครัวมาพักอาศรัยที่บ้านหลังนี้ ในวันหนึ่งขณะที่เขาและผู้รับเหมาจัดสวน กำลังดูทำเล ได้เห็นมุมเหมาะๆมุมหนึ่งเพื่อจะจัดสวนเพื่อทำที่พักผ่อนอิริยาบท ตรงมุมนั้นมีศาลไม้เก่าๆอยู่ จึงได้สั่งการให้ช่างลื้อถอนศาลนั้นออก ด้วยความที่เขาเป็นคนที่ทันสมัย ไม่เคยเชื่อในเรื่องงมงายแบบนี้ ทั้งๆที่ก็มีคนเตือนเขาหลายครั้งแล้วก็ตาม ว่าจะถอนศาลนี้ก็ต้องทำพิธีขออนุญาติก่อน แต่เขาหากลับฟังไม่ ได้สั่งให้ถอนศาลไม้นั้นโดยทันที เพื่อที่จะทำเป็นซุ้มเอาไว้นั่งกินเหล้า พอการลื้อถอนศาล และจัดสวนเสร็จไม่นาน ก็ได้ฤกดิ์ ที่จะย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านกัน พอย้ายเข้ามาได้ไม่นานก็มีเหตุการณ์แปลกเกิดขึ้น คือคนในบ้านฝันไม่ค่อยดี เจ็บป่วยกันบ้าง ทั้งทะเลาะมีปากเสียงกันตลอด ทั้งธุรกิจต่างๆที่ทำก็ประสบกับปัญหาต่างๆ ไม่ค่อยราบรื่น ยิ่งนานวันเข้ายิ่งจะทวีความรุนแรงมากขึ้น....มีอยู่วันหนึ่ง เพื่อนๆที่สนิทกันมาร่วมวงกินเหล้า กันที่ซุ้มที่เขาได้ทำไว้(ตรงที่เคยมีศาลเก่าอยู่) พอขากลับเพื่อนคนหนึ่งที่สนิทกันมาก ประสบอุบัติเหตุ บาดเจ็บสาหัด และต่อๆมาคนในครอบครัวก็เกิดอุบัติเหตุกัน บาดเจ็บบ้าง บางรางถึงกับเสียชีวิต ธุรกิจต่างๆที่เคยรุ่งเรืองกลับต้องเลิก และปิดกิจการไป เพือนฝูงที่เคยไปมาหาสู่กันก็ไม่ค่อยมีใคร ไปมาหาสู่กัน และมีเสียงร่ำลือกันไปต่างๆนาๆ ว่าถึงเรื่องที่ได้ไปถอนศาลไม้ดังกล่าวจนเกิดเป็นอาถรรพ์..ๆลๆ เหตุการณ์ในขนะนั้นอยู่ในช่วงที่แย่มากๆสำหรับเขา ถึงกับเคยคิดฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหาและหนี้สิน(แต่ก็ยังไม่กล้า..พอถึงวันนี้แล้วเขาก็เริ่มมีความเชื่อในเรื่องที่เขาได้ทำลงไปแล้ว พอหมดหนทางจึงคิดหาที่พึ่ง ได้เคยเชิญหมอดูฮวงจุ้ย มาหลายครั้งก็ไม่ได้ผล....จึงกลัดกลุ้มอย่างจวนถึงที่สุด คล้ายจะเป็นโรคประสาท ได้แต่พร่ำภาวนาขอให้ฟ้าดินเมตตาช่วยให้ผ่านเหตุการร้ายๆ
เหมือนฟ้าโปรดได้มีเพื่อนคนหนึ่งแนะนำให้เอาหลวงปู่ทวด กับท้าวเวสสุวรรณ เอามาบูชา พร้อมทั้งบอกวิธี สวดมนต์และขอบารมี และอุทิศส่วนกุศลต่างๆไปให้จ้าวกรรมนายเวร และเจ้าที่ เจ้าทาง ทำทุกวันทำได้ประมาณเดือนหนึ่งปรากฏว่า เริ่มเห็นทางออก ชีวิตก็ดีขึ้น ดีขึ้น และดีขึ้นเรื่อยๆ เหตุการณ์ร้ายๆก็ค่อยๆคลี่คลาย เหมือนกับพลิกฝ่ามือไปเลยทีเดียว ตอนนี้ ปัจุบันเรื่องธุรกิจ การงาน ครอบครัวก็มีความสุขดี และ
ทุกวันนี้ ก็ยังบูชาหลวงปู่ทวดที่บ้าน และมี ท้าวเวสสุวรรณ ของหลวงปู่หมุนติดตัวอยู่ตลอดเวลาเลยครับ..

                                                      สุนัขกัดไม่เข้า..


เป็นประสบการณ์ของคุณ เอก คนนี้ผมรู้จักครับ อยู่ที่จ.จันทบุรี เรื่องมีอยู่ว่า....
มีอยู่วันหนึ่งคุณ เอก ได้ไปตีกอร์ฟที่สมามไดร์...ตอนประมาณเวลา 18.00-19.30น. ขณะที่กำลังเดินมาที่รถเพื่อที่จะเตรียมตัวกลับ ได้เดินผ่านสุนัขพันธุ์(ข้าง)ทาง ตัวหนึ่ง ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะสุนัขตัวนั้นไม่มีท่าทีพิรุธอะไร ก็เลยไม่ทันระวังตัว ขณะที่ได้เดินผ่านเจ้าสุนัขตัวนั้น มันได้งับที่น่องของคุณเอกอย่างเต็มแรง คุณเอกก็สะดุ้งตกใจสุดขีด ตัวเย็น วาบขึ้นมาถึงเส้นผม พอได้สติด้วยสัญชาติญาน คุณเอกก็ได้สบัดขา ให้หลุดจากคมเขี้ยว แล้วสุนัขเจ้ากรรมก็ได้วิ่งหนีไป มีคนได้เห็นเหตุการณ์ได้ถามว่า เป็นอะไรหรือไม่ คุณเอกก็บอกว่า ไม่เป็นอะไร.. คนที่เห็นเหตุการณ์คนนั้นก็บอกว่า สุนัขตัวนี้มันชอบกัดคนที่มาที่นี่หลายคนแล้วด้วย คุณเอกยังบอกอีกว่า..แทนที่จะโกรธ และเคียดแค้นเจ้าสุนัขตัวนั้น แต่เปล่า ใจตอนนั้นกลับไม่ได้โกรธ เจ้าสุนัขตัวนั้นแต่อย่างใด มันมีความคิดผุดขึ้นมาว่า มันคงเป็นเวร กรรมของเรามาแต่ก่อนละมั้ง แต่คุณเอกก็ไม่กล้าที่จะเปิดร่องรอยแผลให้คนๆนั้นดู(สงสัยอาย..) ก็ได้รีบขับรถมาหาเพื่อนที่ร้านอาหารอีสานแห่งหนึ่ง ก็ลองมองไปที่กางเกง เห็นกางเกงเป็นรูเขี้ยวเลย พอเปิดกางเกงขึ้นมาดูปรากฏว่า เห็นเป็นเพียงรอยเขียวช้ำของเขี้ยวสุนัข ทั้ง เขี้ยว แต่ตอนนี้ชักจะปวดมากขึ้น เนื่องจากเพราะแรงงับของสุนัขนั้นทำให้ถึงกับ ช้ำเป็นรอยสีออกม่วงๆเลย แสดงว่ากัดแรงมาก เพื่อนคุณเอกเห็นเข้าถึงกับตกใจ แต่เหมือนปาฏิหาริย์ เขี้ยวสุนัขนั้นกลับไม่สามารถทะลุผ่านได้แม้แต่หนังกำพร้า คุณเอกบอกว่า ทั้งตัวแขวน รูปหล่อเบ้าทุบ ของหลวงปู่หมุนอยู่เพียงองค์เดียวเท่านั้นครับ….


ข้อมูล จาก เว็ป  http://forum.uamulet.com/view_topic.aspx?bid=2&qid=2498

ขอขอบคุณมา  ณ โอกาส นี้ด้วย





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น